หลวงพ่อสำเร็จ วัดโคกมะตูม

ตามประวัติที่มีการระบุไว้อย่างชัดเจน พบว่า  หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปดิน ประดิษฐานอยู่ริมคลองคลองระพีพัฒน์ ฝั่งขวา ที่เป็นคลองชลประทาน โดยมีการขุดพบอย่างบังเอิญเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ขึ้น 12 ค่ำ ปีกุน เดือน 12 พ.ศ. 2502 ตั้งอยู่บนคันคลองระพีพัฒน์ฝั่งขวาและคลองแห่งนี้ถือเป็นสายน้ำสำคัญที่ขุดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าในอดีตที่ว่า ก่อนจะพบองค์หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ นั้น ที่นี่เคยเป็นเนินดินที่มีระดับสูงกว่า หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ มีเฉพาะทางเดินแคบๆ เท่านั้น
 
หลังจากนั้นก็มีคนงานชลประทานประตูระบายน้ำพระเอกาทศรถ มาขุดดิน ที่เป็นเนินนั้นไปถมริมตลิ่งบริเวณที่น้ำกัดเซาะพัง ขุดอยู่หลายวันจนไปถึงบริเวณที่หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นดินที่แข็งมากผิดไปจากบริเวณอื่น ๆ จนขุดดินต่อไปไม่ได้ แต่ก็มีการขุดดินบริเวณรอบ ๆ ที่พอจะขุดได้ จากนั้นดินที่แข็งก็แตกเป็นรูปองค์พระ ชาวบ้านที่ได้ทราบข่าวบ้างก็ว่า ก็พูดว่า พระพุทธรูป มาเกิด บ้างก็ว่าเป็นคนงานของชลประทานที่ปั้นพระองค์ขึ้นมาเอง

สาเหตุที่มีชื่อว่า หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ก็เพราะมีตำนานเล่าขานต่อว่า พอภายหลังการพบเจอพระพุทธรูปองค์นี้ ชาวบ้านไม่เชื่อ คิดว่าคนงานปั้นขึ้น จนมีคนทรงเป็นผู้หญิงชราคนหนึ่ง บ้านอยู่ใกล้กับวิหารในปัจจุบัน ได้ฝันถึงพระพุทธรูป และท่านได้บอกว่า ชื่อ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์และด้วยความที่เป็นพระพุทธรูปดิน รวมทั้ง ยังจะมีการก่อสร้าง มีความพยายามที่จะเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ แต่ไม่สามารถขยับได้ จนต้องทำการก่อปูนซีเมนต์ 
 
ส่วนอีกเรื่องเล่าที่เป็นตำนาน ได้บอกเล่าต่อไปอีกว่า ต่อมา กรมชลประทาน มีคำสั่งให้เอารถขุดปรับทาง ทำถนนบนคันคลอง จากท่าหลวง ถึง อ.หนองแค ระหว่างทางที่จะถึงองค์ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์  รถได้ขุดไปรอบ ๆ ฐานจนเกือบจะถูกองค์ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์  ก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นทันที ฟ้าได้ผ่าลงมากลางวันแสก ๆ ทั้ง ๆ ที่ปราศจากเมฆฝน คนขับรีบหยุดรถ แล้วกระโดดลงมากราบขอขมาอภัย หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์โดยไม่กล้าขุดดินใกล้องค์ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ อีกต่อไป ชาวบ้านจึงศรัทธาเลื่อมใส เชื่อกันว่าหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยต่างก็เชื่อกันว่า สามารถปกป้องกันภัยได้ทุกอย่าง ใครมาบนบานขออะไร ก็จะได้รับแต่ความสุข ความสมหวัง และสมความปรารถนากันทั่วทุกคน
ทุกปีในกลางเดือน 12 ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันจัดงานประจำปีขึ้น 15 วัน 15 คืน ตลอดจนงานปีใหม่ ก็มีการจัดงานเฉลิมฉลอง 15 วัน 15 คืน เช่นกัน